Binary ตัวเลือก ชั้นนำ ตัวชี้วัด ใน ด้านความปลอดภัย

ตัวชี้วัดทางเทคนิคที่สำคัญที่สุดสำหรับตัวเลือกไบนารีพิจารณาเดิมพันต่อไปนี้: จ่าย 45 เพื่อวางเดิมพันว่าราคาทองคำจะสูงกว่า 1,250 ในเวลา 01:30 น. ในวันนี้ ได้รับ 100 (55 กำไร) ถ้าคุณชนะแพ้ 45 รับตอนนี้เพื่อเดิมพันว่าดัชนี NASDAQ US Tech 100 จะไปต่ำกว่า 2,224 ที่ 14:00 น. ในวันนี้ เก็บกำไรได้ถึง 81 หากการคาดการณ์ของคุณเป็นจริง ถ้าไม่ให้เสีย 19. จ่าย 77 ให้ชนะ 100 ถ้าอัตราแลกเปลี่ยนเงิน USD-JPY อยู่เหนือ 78.06 น. ในเวลา 14.00 น. วันนี้คุณเสีย 77 ถ้าไม่. ได้รับ 33 ถ้าคุณวางเดิมพันราคา bitcoin จะต่ำกว่า 379.5 ที่ 3:00 pm ในวันนี้ ถ้ามันไม่ได้ลดลงมากเสีย 67 ยินดีต้อนรับสู่ตัวเลือกไบนารี ทั้งหมดหรือไม่มีเลยหนึ่งหรือศูนย์หลักทรัพย์เหล่านี้มีอยู่ใน Nadex และ Chicago Board Options Exchange (CBOE) ตัวเลือกไบนารีอนุญาตให้ผู้ค้าทำข้อเสนอตามเงื่อนไขตามเวลาที่ระบุไว้ในค่าดัชนีหุ้นสินค้าโภคภัณฑ์เหตุการณ์และแม้แต่ค่าบิตcoin เหมือนตัวเลือกการซื้อขายแลกเปลี่ยนมาตรฐาน แต่ละตัวเลือกไบนารีมีตัวเลือกพิเศษ (45, 81, 77 และ 33 ในตัวอย่างด้านบน) ราคานัดหยุดงานล่วงหน้าที่กำหนดไว้ (1,250, 2,244, 78.06, 379.5) และหมดอายุ (13.30 น. 14.00 น. วันนี้) ความแตกต่างคือราคาการชำระราคาที่คงที่ที่ 0 หรือ 100 ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของตัวเลือกที่ได้รับ จะทำให้กำไรสุทธิ (หรือขาดทุน) คงที่ พรีเมี่ยมตัวเลือกยังคงอยู่ระหว่าง 0 ถึง 100 (ที่เกี่ยวข้อง: คู่มือการซื้อขายตัวเลือกไบนารี) ตั้งแต่ตัวเลือกไบนารีเป็นเวลาที่ถูกผูกไว้และเงื่อนไขการคำนวณความน่าจะเป็นส่วนสำคัญในการประเมินค่าตัวเลือกเหล่านี้ มันทั้งหมดเดือดลงไปที่ความเป็นไปได้ที่ราคาทองคำในปัจจุบันของ 1,220 จะย้ายไปที่ 1,250 หรือสูงกว่าในอีกสี่ชั่วโมงปัจจัยที่กำหนด ได้แก่ : ความผันผวน (เท่าไหร่และมันก็เพียงพอที่จะข้ามราคา thresholdstrike) ทิศทางของราคา ย้ายและเวลา ตัวชี้วัดทางเทคนิคที่เหมาะสมสำหรับการซื้อขายตัวเลือกไบนารีควรรวมปัจจัยข้างต้น หนึ่งสามารถใช้ตำแหน่งตัวเลือกแบบไบนารีโดยพิจารณาจากโมเมนตัมที่ต่อเนื่องหรือรูปแบบการกลับรายการแนวโน้ม ให้ดูที่ตัวชี้วัดทางเทคนิคแบบไบนารีตัวชี้วัดที่นิยม: ตัวบ่งชี้การเคลื่อนไหวทิศทางทิศทาง Wilders (DMI) ดัชนีทิศทางเฉลี่ย (ADX): ประกอบด้วยสามบรรทัดคือ ADX, DI และ DI - และตำแหน่งสัมพัทธ์ตัวบ่งชี้นี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อจับภาพ ความแรงของแนวโน้มที่ระบุไว้แล้ว นี่คือตารางสำหรับการตีความแนวโน้ม: อ่อนแอ Untrustable Downtrend StockChart ภาพขึ้นอยู่กับโมเมนตัมที่ระบุและความแรงของแนวโน้มตำแหน่ง buysell ที่เหมาะสมอาจถูกนำมา Pivot Point (ร่วมกับการสนับสนุนและระดับความต้านทาน): การวิเคราะห์จุดหมุนช่วยในการกำหนดแนวโน้มและทิศทางของระยะเวลาที่กำหนด เนื่องจากความยืดหยุ่นในการกำหนดเวลาจุดหมุนสามารถใช้สำหรับตัวเลือกไบนารีโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการซื้อขายสกุลเงินที่มีสภาพคล่องสูง ตัวอย่างที่ดี (ด้วยการคำนวณและกราฟ) รวมอยู่ในบทความการใช้ Pivot Points ใน Forex Trading Commodity Channel Index (CCI): CCI จะคำนวณระดับราคาปัจจุบันของหลักทรัพย์ที่มีราคาเทียบเคียงกับราคาเฉลี่ยในช่วงเวลาที่กำหนด ระดับราคาเฉลี่ยอยู่ที่ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ ช่วงเวลาสามารถเลือกได้ตามต้องการทำให้ผู้ประกอบการค้ามีความยืดหยุ่นในการเลือกเมื่อตัวเลือกไบนารีหมดอายุ CCI มีประโยชน์ในการระบุแนวโน้มใหม่ ๆ และเงื่อนไขที่รุนแรงของการซื้อเกินกว่าหลักทรัพย์ เป็นที่นิยมมากในหมู่ผู้ค้ารายวันสำหรับการซื้อขายระยะสั้นและอาจใช้กับตัวบ่งชี้เพิ่มเติมเช่น oscillators CCI คำนวณด้วยสูตร: Price คือราคาปัจจุบันของสินทรัพย์ MA คือค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ของราคาสินทรัพย์และ D คือส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานจากค่าเฉลี่ยดังกล่าว ค่าที่สูงกว่า 100 หมายถึงจุดเริ่มต้นของขาขึ้นที่แข็งแกร่ง แม้ว่าค่าต่ำกว่า -100 จะเป็นจุดเริ่มต้นของขาลงที่แข็งแกร่ง Stochastic Oscillator. ในการให้สัมภาษณ์ผู้สร้าง Stochastic Oscillator ดร. จอร์จเลนกล่าวว่ามันเป็นไปตามความเร็วหรือโมเมนตัมของราคา ตามกฎโมเมนตัมจะเปลี่ยนทิศทางก่อนราคา รายละเอียดพื้นฐานที่สำคัญนี้บ่งชี้ถึงกรณีที่มีการซื้อมากเกินไปและ overselling ทำให้สามารถกลับไปหาการผกผันสำหรับขั้นตอนรั้นและหยดคายได้ ครอสโอเวอร์ของค่า K และ D ระบุสัญญาณการเข้าสู่รายการค้า แม้ว่าระยะเวลา 14 วันเป็นมาตรฐานผู้ค้าตัวเลือกไบนารีสามารถใช้กรอบเวลาที่ต้องการได้ ระดับเหนือระดับ 80 ระบุว่าราคาซบเซาในขณะที่ราคาต่ำกว่า 20 ระบุว่าขายเกิน กลุ่ม Bollinger Bands วง Bollinger จับความสำคัญของความผันผวน พวกเขาระบุระดับบนและล่างเป็นวงที่สร้างแบบไดนามิกขึ้นอยู่กับการเคลื่อนไหวราคาล่าสุดของการรักษาความปลอดภัย ค่าที่ใช้กันทั่วไปคือ 12 สำหรับค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ที่เรียบง่ายและสองสำหรับค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานสำหรับแถบด้านบนและด้านล่าง การหดตัวและการขยายตัวของแถบระบุสัญญาณการกลับรายการที่จะช่วยให้ผู้ค้ารับตำแหน่งที่เหมาะสมในตัวเลือกไบนารี สถานการณ์การซื้อ Overbought ถูกระบุไว้ถ้าราคาตลาดปัจจุบัน (CMP) อยู่เหนือแถบด้านบน ในขณะที่การขายฝากมีการระบุไว้เมื่อ CMP ต่ำกว่าวงล่าง ความท้าทายในการซื้อขายตัวเลือกไบนารีได้อย่างถูกต้องทำนายความยั่งยืนของแนวโน้มในช่วงเวลาที่กำหนด ตัวอย่างเช่นผู้ค้าอาจใช้ตำแหน่งที่เหมาะสมสำหรับดัชนีโดยทำนายว่าจะมียอดแตะ 1250 ในตอนท้ายของระยะเวลาห้าชั่วโมง แต่ระดับนี้ทำได้ในสองชั่วโมงแรก การเฝ้าติดตามอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาที่เหลือสามชั่วโมงหากผู้ค้าวางแผนที่จะระงับตำแหน่งจนกว่าจะหมดอายุหรือกำหนดกลยุทธ์ที่กำหนดไว้ล่วงหน้า (เช่นลดกำลังออกจากตำแหน่ง) เมื่อถึงระดับ ตัวชี้วัดทางเทคนิคที่กล่าวข้างต้นควรใช้สำหรับการดำเนินการในเวลาที่เหมาะสมกับการตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง ข้อเสียสำคัญประการหนึ่งที่มีตัวชี้วัดทางเทคนิคคือผลลัพธ์และการคำนวณขึ้นอยู่กับข้อมูลในอดีตและสามารถสร้างสัญญาณปลอมได้ ผู้ค้าควรปฏิบัติอย่างระมัดระวังด้วยการวิเคราะห์ย้อนหลังอย่างละเอียดและการวิเคราะห์อย่างละเอียดสำหรับสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงและมีผลตอบแทนสูงเช่นตัวเลือกไบนารีตัวชี้วัดด้านซ้ายการวิเคราะห์ทางเทคนิคมีหลายวิธีในการดูและตีความตลาด ขึ้นอยู่กับลักษณะการค้าของคุณและสภาพตลาดในปัจจุบันคุณจำเป็นต้องเลือกเครื่องมือที่เหมาะสมสำหรับงาน เรียนรู้เกี่ยวกับตัวชี้วัดชั้นนำที่นี่ ตัวบ่งชี้สามารถช่วยให้คุณเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นในตลาด โดยทั่วไปเราสามารถแบ่งตัวบ่งชี้ออกเป็นสองประเภทคือความแตกต่างที่กำหนดระหว่างสองกลุ่มนี้คือตัวบ่งชี้ชั้นนำก่อนการเคลื่อนไหวของตลาดและตัวชี้วัดที่ล้าหลังดีล้าหลัง สำหรับการใช้งานในทางปฏิบัตินั่นหมายความว่าตัวบ่งชี้ที่ล้าหลังจะทำงานได้ดีที่สุดเมื่อตลาดกำลังเคลื่อนไหวอยู่ในขณะที่ตัวบ่งชี้ที่เป็นตัวบ่งชี้เด่นกว่าเมื่อตลาดอยู่ในแนวขวาง เหตุผลก็คือตัวชี้วัดที่ปกคลุมด้วยวัตถุฉนวนเช่น Bollinger bands หรือ moving average เป็นตัวช่วยในการระบุและวิเคราะห์แนวโน้ม พวกเขาช่วยให้คุณเห็นเกินความผันผวนของราคาอย่างรวดเร็วและแทนที่จะมุ่งเน้นไปที่การเคลื่อนไหวที่กว้างขึ้นแนวโน้ม ตัวบ่งชี้ชั้นนำเช่น Stochastic Oscillator หรือดัชนีความแข็งแกร่งของญาติ (RSI) ในทางกลับกันให้ความสนใจกับความผันผวนของราคาที่รวดเร็ว ความผันผวนหรือความผันผวนเหล่านี้สามารถใช้เพื่อสร้างรายได้ในการซื้อขายไบนารี ซึ่งหมายความว่าตัวชี้วัดชั้นนำมีความสนใจต่อผู้ค้าตามเทรนด์น้อย แต่มีความสำคัญต่อผู้ค้าที่ชอบการชิงช้า เราสามารถพูดได้โดยทั่วไปว่าตัวชี้วัดชั้นนำเป็นส่วนสำคัญมากของชุดเครื่องมือของผู้ค้าแกว่งมากกว่าผู้ติดตามแนวโน้ม วิธีการสร้างรายได้จากตัวชี้วัดชั้นนำสิ่งแรกที่คุณควรทำเพื่อที่จะเพิ่มศักยภาพในการทำกำไรของตัวชี้วัดที่สำคัญที่สุดคือการกำหนดว่าแนวโน้มตลาดมีแนวโน้มหรือไม่ กระแทกแดกดันนี่คือสิ่งที่ตัวชี้วัดชั้นนำไม่สามารถช่วยคุณได้ดังนั้นก่อนที่คุณจะสามารถใช้งานได้คุณจำเป็นต้องใช้ตัวชี้วัดที่ปกคลุมด้วยวัตถุฉนวนเพื่อระบุแนวโน้มอย่างต่อเนื่อง หากคุณพิจารณาว่าการเคลื่อนไหวของราคาเป็นแบบสุ่มไม่ใช่ส่วนหนึ่งของแนวโน้มการผันผวนที่คุณสามารถรับได้โดยใช้ตัวชี้วัดชั้นนำจะช่วยให้คุณคาดการณ์การเคลื่อนไหวของตลาดได้ หากในทางกลับกันตลาดมีแนวโน้มแล้วการสั่นสะเทือนเหล่านี้มักจะไม่เหมาะสมเป็นสัญญาณ เนื่องจากพวกเขามักจะไปในทิศทางตรงกันข้ามกับแนวโน้ม ต่อไปนี้เป็นรายการตรวจสอบที่คุณอาจพบว่ามีประโยชน์เมื่อใช้ตัวชี้วัดชั้นนำ: โปรดทราบว่าคุณเป็นผู้ค้าแกว่งหรือเทรนด์เทรนด์หรือไม่ หากคุณต้องการให้แนวโน้มนำไปสู่การซื้อขายของคุณตัวบ่งชี้ที่นำไปใช้อาจไม่เหมาะสำหรับคุณ ตรวจสอบสภาวะตลาด โดยทั่วไปตลาดมีแนวโน้มหรือไม่ถ้าคุณเห็นจำนวนมากของการเปลี่ยนแปลงราคาแบบสุ่มและไม่มีแนวโน้มในแผนภูมิของคุณตลาดกำลังเดินไปด้านข้าง นี่อาจหมายความว่าตัวบ่งชี้ที่นำไปสู่การคาดการณ์ที่ดี ใช้ตัวบ่งชี้ด้านขวา มีตัวชี้วัดที่สำคัญหลายแห่งให้เลือก ให้แน่ใจว่าคุณใช้อย่างใดอย่างหนึ่งที่เหมาะสมกับสภาวะตลาด ตัวบ่งชี้ที่คุณใช้จะเป็นตัวกำหนดว่าคุณเห็นตลาดอย่างไร ปรับตัวได้ ตลาดมีการเคลื่อนไหวเสมอเปลี่ยนและปรับตัว ดังนั้นคุณต้องเตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนเงื่อนไข ขึ้นอยู่กับสภาวะตลาดคุณต้องเลือกตัวบ่งชี้ด้านขวา มันอาจจะฉลาดที่จะใช้มากกว่าหนึ่งเพื่อให้ได้ภาพที่สมบูรณ์ เมื่อเงื่อนไขเปลี่ยนแปลงคุณอาจต้องการละเลยตัวชี้วัดบางอย่างและพึ่งพาผู้อื่นมากขึ้น มีวิธีหนึ่งที่จะชดเชยข้อบกพร่องของตัวชี้วัดชั้นนำในตลาดที่มีแนวโน้มเช่นกัน วิธีนี้จะช่วยให้คุณสามารถสร้างสัญญาณได้ในช่วงแนวโน้ม สิ่งที่คุณทำคือการใช้ oscillator และตัวบ่งชี้ปกคลุมด้วยวัตถุฉนวนในเวลาเดียวกัน เมื่อตัวบ่งชี้ที่ปกคลุมด้วยวัตถุฉนวนแสดงให้เห็นว่าตลาดอยู่ในแนวโน้มรั้นให้ละเว้นสัญญาณตกต่ำทั้งหมดจากตัวสร้างภาพ เมื่อตัวบ่งชี้ที่ปกคลุมด้วยวัตถุฉนวนแสดงให้เห็นว่าตลาดอยู่ในภาวะหยาบคายให้ละเว้นสัญญาณรั้นทั้งหมดที่สร้างขึ้น ด้วยวิธีนี้คุณสามารถค้ากับความผันผวนของราคาอย่างรวดเร็วที่ย้ายไปในทิศทางของแนวโน้มตัวชี้วัดที่เป็นประโยชน์สำหรับ Newbies บทความนี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับ newbies และสำหรับ traders ใหม่ในไบนารีตัวเลือกและในอุตสาหกรรมการค้าโดยทั่วไป ฉันจะแชร์กับตัวชี้วัดที่เป็นประโยชน์บางอย่างที่สามารถช่วยปรับปรุงรูปแบบการซื้อขายของคุณได้ บางส่วนของพวกเขาเป็นเรื่องง่ายมากและฉัน don8217t ใช้พวกเขาในขณะนี้ แต่พวกเขาช่วยฉันมากในการเริ่มต้นของการเดินทางการค้าของฉัน Let8217s เริ่มต้น 8211 ตัวบ่งชี้ Zig Zag ตัวบ่งชี้แรกจะง่ายมากและคุณสามารถค้นหาได้ในแพลตฟอร์ม metatrader ของคุณ It8217s สัญลักษณ์ zig zag ที่สามารถช่วยให้ผู้ค้าเห็นชัดเจน tops และต่ำของตลาด แบร์รี่เป็นตัวบ่งชี้ง่ายๆที่ดึงระดับการสนับสนุนและความต้านทาน การสนับสนุนด้านการวาดภาพและความต้านทานคือ 8220must8221 สำหรับธุรกิจการค้า แต่มือใหม่จำนวนมากมีปัญหา ดังนั้นตัวบ่งชี้นี้สามารถช่วยให้พวกเขาและเรียนรู้พวกเขาที่มีความสนับสนุนและระดับความต้านทาน คุณ don8217t ต้องทำอะไรที่ยากเพียงแค่ติดตั้งตัวบ่งชี้นี้ไปยังแพลตฟอร์ม metatrader ของคุณและหลังจากวางลงในแผนภูมิของคุณคุณจะเห็นในแผนภูมิด้านบนเส้นสีแดงมีความต้านทานและเส้นสีน้ำเงินมีการสนับสนุนแน่นอน indi นี้ can8217t ระบุ ระดับ SampR ในอนาคต มันแค่ดึงแรงสนับสนุนหรือความต้านทานที่เกิดขึ้น 8211 ซื้อต่อและ Over Over (RSI และแผนภูมิค่า) สำหรับเงื่อนไขที่ซื้อจนเกินไปและ oversold ฉันมีสองตัวชี้วัดที่แนะนำให้คุณ ภาวะการซื้อมากเกินไปเป็นภาวะที่สินทรัพย์มีมากขึ้นจากระดับปกติและบางทีเราอาจจะตก Oversold เป็นเงื่อนไขตรงกันข้าม สินทรัพย์ที่ต่ำกว่าระดับปกติมากและอาจเป็นไปได้ที่ตลาดจะเพิ่มขึ้นหากต้องการระบุเงื่อนไขทั้งสองนี้คุณสามารถใช้ตัวบ่งชี้ RSI จากแพลตฟอร์ม metatrader หรือตัวบ่งชี้แผนภูมิค่า 8211 RSI amp Chart Value ในแผนภูมินี้ซึ่งเป็นกราฟก่อนหน้ากับ barry ผมได้ติดตั้งทั้งสองไฟล์เข้ากับซอฟต์แวร์ metatrader ของฉัน ใน RSI คุณสามารถเพิ่มจากการกำหนดค่าได้สองระดับ หนึ่งสำหรับเงื่อนไขซื้อมากและอีกหนึ่งสำหรับเงื่อนไข oversold ผู้ค้าจำนวนมากใช้สถานการณ์ทั้งสองนี้ที่ระดับ 70 สำหรับราคาสูงเกินไปและระดับ 30 สำหรับการซื้อขายมาก นอกจากนี้คุณยังสามารถใช้ 80 และ 20 ระดับเพื่อความปลอดภัยมากขึ้นตามที่คุณเห็นในแผนภูมินี้ใน RSI เรามีซื้อที่สูงและขายต่ำที่ต่ำ ตัวบ่งชี้แผนภูมิค่าใช้งานเดียวกัน แถบสีเขียวมีแนวรุกและแถบสีแดงหยาบคาย ในตัวบ่งชี้นี้คุณสามารถ gix ระดับ ผู้ค้าจำนวนมากใช้ 8 และ -8 lebels สำหรับสถานการณ์ที่ซื้อเกินและ oversold และ 6 และ -6 สำหรับสถานการณ์นุ่มนวล 8211 ตัวบ่งชี้ข่าวสารตัวบ่งชี้ที่สำคัญมากสำหรับแผนภูมิของคุณเป็นตัวบ่งชี้ข่าวสาร ฉัน don8217t มีตัวบ่งชี้ข่าวที่เฉพาะเจาะจงเพื่อแนะนำให้คุณเพราะมีจำนวนมากออกมีและโดยทั่วไปพวกเขาทำทุกงานเดียวกัน นักสังเกตการณ์ข่าวจะแจ้งให้คุณทราบหากมีข่าวสำหรับตลาดหรือเมื่อเราจะเผยแพร่ข่าว แม้ว่ากลยุทธ์ของคุณไม่ได้เป็นการค้าข่าวคุณควรมี indi เช่นนี้เพื่อทราบว่าเวลามีข่าวและอยู่ห่างจากตลาดเนื่องจากถ้าคุณจะละเว้นข่าวพวกเขาสามารถทำลายธุรกิจการค้าของคุณ 8211 Bollinger Bands ตัวบ่งชี้ที่มีประโยชน์และมีประสิทธิภาพมากที่สร้างขึ้นโดย John Bollinger ช่วยให้คุณระบุระดับการสนับสนุนและความต้านทานได้ มีค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่เฉลี่ยอยู่ที่ 20 ช่วงและสองแถบ (ขึ้นและลง) และสามารถทำหน้าที่เป็นระดับ SampR สำหรับราคาได้ แจ้งให้ทราบว่าราคาจะทำให้ตีกลับในวงได้อย่างไร 8211 Daily Pivots Indicator ตัวบ่งชี้ที่ง่ายซึ่งคำนวณและแสดงระดับ Pivot ประจำวันของตลาด It8217s สำคัญมากเพราะมี SampR หลายครั้งในระดับเหล่านี้ 8211 ตัวบ่งชี้รูปแบบฮาร์โมนิครูปแบบฮาร์มอนิกเป็นบทเรียนขั้นสูงของการวิเคราะห์ทางเทคนิคและต้องใช้เวลาเรียนรู้วิธีวาด มีตัวบ่งชี้ที่วาดรูปแบบฮาร์มอนิกโดยอัตโนมัติเหมือนกับ ZUP. mq4 หรือ KorHarmonics. mq4 หากคุณสนใจในรูปแบบฮาร์มอนิก แต่คุณสามารถวาดภาพเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี แน่นอนว่าพวกเขาทำประมาณการผิดหลายครั้ง แต่พวกเขาสามารถช่วยให้คุณเริ่มต้นวาดด้วยตัวเอง รูปแบบ CRAB รั้นโดย KorHarmonics จากตัวบ่งชี้ที่สำคัญที่สุด ฉันใช้มันทุกวันด้วยเหตุผลหลายประการ แต่ส่วนใหญ่จะระบุการตีกลับและการย้อนกลับ คุณสามารถค้นหาได้ในแพลตฟอร์ม metatrader ของคุณในเครื่องมือวาดภาพของคุณ ระดับที่จะเพิ่มคือ 38.2, 78.6 และ 127 ระดับความสำคัญอื่น ๆ ทั้งหมดนี้มีอยู่ในการตั้งค่าเริ่มต้นแล้ว 8211 Moving Averages ฉันเขียนบทความเกี่ยวกับค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่และวิธีการใช้ ไม่มีอะไรที่เป็นมาตรฐานสำหรับการตั้งค่าตามที่ได้กล่าวมาหลายครั้ง ฉันได้บอกคุณถึงการตั้งค่าที่ฉันใช้คุณสามารถทำ backtest และดูว่าการตั้งค่าใดที่เหมาะกับกลยุทธ์ของคุณมากที่สุด